วันนี้ (7 ธันวาคม 2565) พลเอกกู้เกียรติ ศรีนาคา ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคเหนือและคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมีนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
เวลา 10.00 น . ประธานและคณะอนุกรรมการฯ เดินทางลงพื้นที่ห้วยมุ่น ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เพื่อรับฟังและตรวจเยี่ยมโครงการบริหารจัดการน้ำด้วยฝายแกนซอยซีเมนต์ โครงการแก้มลิงห้วยลี่พร้อมอาคารประกอบ และแนวทางการจัดการน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจเมืองน่าน โดยสืบเนื่องมาจากการเกิดปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองน่าน ที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูน้ำหลาก อันเกิดจากปัจจัยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำถูกบุกรุกให้เป็นพื้นที่ทางการเกษตร ลักษณภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาลาดชัน ทำให้การไหลของน้ำรุนแรง ในส่วนสาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตตัวอำเภอเมืองน่าน อาจจะเกิดจากสาเหตุจากคลองระบายน้ำเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยโบราณ มีการสร้างถนนทับเส้นทางเดินน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงท่อระบายน้ำได้ ดังนั้นจึงได้เกิดโครงการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ลุ่มน้ำห้วยมุ่น และห้วยเมืองหลวง เพื่อวางแผนป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในเขตลุ่มน้ำ ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม ต.ผาสิงห์ ต.ไชยสถาน ต.ดู่ใต้ และเทศบาลเมืองน่าน เนื้อที่ 1 หมื่น 6 พันไร่ ซึ่งกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 ได้ทำการตรวจสอบสภาพพื้นที่ โดยจะทำการขุดลอกหนองน้ำปรับพื้นที่ให้เป็นโครงการแก้มลิง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถป้องกันและบรรเทาอุทกภัย สามารถกักเก็บน้ำเป็นต้นทุนสำหรับการทำการเกษตร ซึ่งสามารถนำน้ำจากห้วยลี่มาใช้ประโยชน์ได้ในช่วงฤดูแล้งอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ประธานและคณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟัง การดำเนินการจัดการน้ำด้วยฝายแกนซอยซีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดว่าสามารถกักเก็บน้ำ ชะลอน้ำ และดักเศษตะกอนและวัสดุที่ไหลมากับน้ำได้เป็นอย่างดี
จากนั้น เวลา 13.00 น. ประธานและคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปพื้นที่ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เพื่อติดตามการก่อสร้างอ่างน้ำกิ โดยกรมชลประทานที่เป็นหนึ่งในแผนโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำน่าน ทางกรมชลประทานเห็นสมควรในการเร่งรัดโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ เพื่อเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำน่านตอนบนให้มีแหล่งน้ำต้นทุน ชะลอการไหลของน้ำในช่วงฤดูฝน การบริหารจัดการน้ำและป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน อีกทั้งยังช่วยในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ระบบนิเวศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ เป็นเขื่อนชนิดเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว (Rock Fill Dam) มีความยาวเขื่อน 845 เมตร ความสูงของเขื่อน 81.50 เมตร ความกว้างสันเขื่อน 12 เมตร พร้อมอาคารประกอบ สามารถกักเก็บน้ำได้ 52.31 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทาน 35,558 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ใน 8 ตำบลของอำเภอท่าวังผา มีครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 6,300 ครัวเรือน โดยใช้กรอบวงเงิน 6,200 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 6 ปี (พ.ศ.2566 – 2571) ซึ่งคาดว่าหากการโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถบรรเทาปัญกาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำในเขตอำเภอท่าวังผา ตลอดจนพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำน่านได้ สามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค การปศุสัตว์ในอย่างเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และสามารถพัฒนาเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย
ทั้งนี้ พลเอกกู้เกียรติ ศรีนาคา ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคเหนือและคณะ มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในภาคเหนือ พื้นที่จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา และจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2565