น่าน แถลงข่าวสรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดน่าน ในห้วงที่ผ่านมา ในกิจกรรมแถลงข่าวประจำเดือนกันยายน 2567
ที่ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน จัดแถลงข่าวสรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดน่าน ในห้วงที่ผ่านมา ในกิจกรรมแถลงข่าวประจำเดือนกันยายน 2567 โดยมีนายเทวา ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการแถลงข่าวประจำเดือน
สำหรับสรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดน่าน ในห้วงที่ผ่านมา สรุปพอสังเขป ดังนี้
วรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า สรุปสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลค์ (ตั้งแต่วันที่ 19 – 30 สิงหาคม 2567)ในพื้นที่จังหวัดน่าน อันเนื่องมาจากอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเวียดนามตอนบน จังหวัดน่าน ได้เกิดอุทกภัย (น้ำป่าไหลหลากและดินสไลค์) จำนวน 14 อำเภอ 82 ตำบล 670 หมู่บ้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.ย. 67) บ้านเรือนเสียหาย 3878 หลัง (ส่วนใหญ่น้ำเข้าท่วมบริเวณบ้าน มี 1 หลังที่ได้รับความเสียหาย)มีผู้ประสบภัย จำนวน 32,434 ครัวเรือน 134,472 คน พื้นที่ทางการเกษตร พืชไร่ 7,391 ไร่ นา 8,733 ไร่ พืชสวน 2,196 ไร่ บ่อปลา 230 บ่อ เป็ด/ไก่ 1,764 ตัว วัว/ควาย 22 ตัว สุกร 30 ตัว สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ถนน 205 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 39 แห่ง พนังกันตลิ่ง 28 แห่ง วัด/โรงเรียน/สถานที่ราชการ 20 แห่ง
จังหวัดน่าน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวผู้ประสบภัย และมอบหมายหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ดังนี้ 1.เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ จำนวน 3 ราย รายละ 59,400 บาท (กรณีผู้เสียชีวิต 29,700 บาท กรณีผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัวมอบเพิ่มอีก 29,700 บาท) 2.เงินบริจาคของจังหวัด จำนวนรายละ 50,000 บาท 3.เงินมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ จำนวน รายละ 10,000 บาท กรณี(ผู้เสียชีวิต) มีภูมิลำเนาในพื้นที่ รายที่ 1 บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 1 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน รายที่ 2 บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 3 ตำบลริม อำเภอท่าวังผารายที่ 3 บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 7 ตำบลพระธาตุ อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน เสียชีวิตที่อำเภอทุ่งช้าง
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ระดับน้ำน่าน ณ จุด N1 สูงถึง 8.72 เมตร มากกว่าน้ำท่วมในปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.42 เมตร สำหรับจุดที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และเป็นช่องให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณบ้านดอนแก้วนั้น อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซม ในส่วนของการช่วยเหลือถุงยังชีพ ทางเทศบาลเมืองน่าน ได้ดำเนินการช่วยเหลือ รอบแรกประมาณ 4,000 หลังคาเรือน ในรอบที่สองได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดน่าน เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่าง ๆ แจกจ่ายให้ประชาชนในเขตเทศบาลเพิ่มเติม ด้านเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้ดำเนินการสำรวจ มีจำนวนประมาณ 3,500 ราย ที่ยื่นคำขอเงินเยียวยา โดยจะดำเนินการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ต่อไป
นายพงศ์นรินทร์ สุทธารักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา กล่าวว่า อำเภอเวียงสามีลำน้ำถึง 7 สาขา ได้แก่ น้ำมวบ น้ำปั้ว น้ำสา น้ำว้า น้ำสาคร น้ำแหง และแม่น้ำน่าน สำหรับในพื้นที่เทศบาลตำบลเวียงสา ทั้งนี้มีจุดคอสะพานไหล่น่าน ไม่สามารถสร้างคันกั้นน้ำถาวรป้องกันน้ำท่วมได้ จึงได้สร้างคันกั้นน้ำชั่วคราวขึ้น ความยาว 11 เมตร สูง 2 เมตร กว้าง 6 เมตร เพื่อป้องกัน ไม่ให้น้ำเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจในพื้นที่
นายธีรุญวัตร บุญมาปะ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน กล่าวว่า แนวทางการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเวียงสา ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จ้างที่ปรึกษาสำรวจ ออกแบบ ระบบป้องกันน้ำท่วม โดยเสริมคันป้องกันน้ำท่วม ตามแนวถนนริมแม่น้ำสา ความสูงประมาณ 1 ม. ถึง 1.50 ม. ความยาวประมาณ 1 กม. พร้อมก่อสร้างสถานีสูบน้ำ พร้อมติดตั้งปั้มสูบน้ำ เพิ่มเติมจำนวน 4 จุด งบประมาณ 68 ล้านบาท โดยขอรับงบประมาณในปี 2569
นางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า จากอุทกภัยที่ผ่านมา ด้านการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ จาก 15 อำเภอ โรงแรมที่พักได้รับผลกระทบ 77 แห่ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก 79 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยว 23 แห่ง ทั้งนี้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติหลังจากมีการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้กรมการท่องเที่ยว ได้สนับสนุนงบประมาณปรับปรุงห้องน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ วัดภูมินทร์ วัดศรีพันต้น ดอยเสมอดาว ดอยภูคา และเสาดินนาน้อย ในปีงบประมาณ 2568 พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ หลังการฟื้นฟูเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
นายสกัณฑ์ อินทรเสน หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่อยู่ในการบริหารของโครงการชลประทานน่าน อ่างขนาดกลาง 9 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 26 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ คิดเป็น 95 % ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งหมด ขณะนี้ได้มีการระบายน้ำตามมาตรการของ สทนช. และของกรมชลประทาน ให้มีพื้นที่ในการรับน้ำเพิ่มเติมในฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตรียมความพร้อมในการรับปริมาณน้ำจากฝนที่เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ และแจ้งเตือนพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ในห้วง 20-23 กันยายนนี้
นายสายันต์ ไชยยศ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาน่าน กล่าวว่า พายุยังไม่ยกระดับเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนตัวช้าลงเล็กน้อย มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในวันนี้(พัฒนาช้ากว่าที่คาด) และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม ตอนกลางในช่วงเช้าตรู่วันที่ 20 ก.ย. 67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ และเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง ในวันที่(19-20 ก.ย.67)ตามลำดับ
ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเริ่มทางภาคอีสานตอนบนและตอนกลาง (หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด) ภาคเหนือด้านตะวันออก และตอนล่าง (แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก ) ในลำดับวันถัดไป(ในช่วง 20-21 ก.ย.67) ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมฝน)มีกำลังแรงพัดเข้าหาพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก (นครนายก ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด ) และภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล)มีฝนตกหนักมากบางแห่ง คลื่นลมมีกำลังแรงลม ในช่วงวันที่ 20–23 ก.ย. 67 ยังต้องติดตามและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด