วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง จัดงานวันบุรพาจารย์ ประจำปี 2564 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณของอดีต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง และเจ้าผู้ครองนครน่าน

           วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2564) ที่พุทธมณฑลศาลาหลวงวัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน นายวิบูรณ์  แววบัญฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน ร่วมมุฑิตาจิต งานวันบุรพาจารย์ ประจำปี 2564 ถวายมุทิตาจิต พระชยานันทมุนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง ในโอกาสที่มีอายุวัฒนมงคล ครบ 52 ปี 36 พรรษา อีกทั้ง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง ทุกรูปทุกนาม และอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าผู้ครองนครน่าน
              ในโอกาสนี้ พระชยานันทมุนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง และคณะศิษยานุศิษย์ ได้มอบทุนการศึกษาแก่พระนิสิต สามเณร นักเรียน นักศึกษา จำนวน 179 รูป/คน ในพื้นที่จังหวัดน่าน ที่มีความตั้งใจเล่าเรียนอันจะเกิดผลดีต่อครอบครัว สังคมได้ในอนาคต เพื่อให้ภิกษุสามเณร และเยาวชนเหล่านี้จะได้นำความรู้ต่างๆ ในการศึกษาเล่าเรียน กลับมาพัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้าต่อไป 
               ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ทางคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอภูพียง และศิษยานุศิษย์ ได้จัดขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง และเจ้าผู้ครองนครน่าน เรื่องราวของพระธาตุแช่แห้งนั้น เริ่มต้นขึ้นในสมัยของพญาการเมืองนี่เอง ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 1896 พญาการเมือง เจ้าผู้ครองนครน่าน (วรนคร) ได้รับเชิญจาก พระยาโสปัตตกันทิ (พระเจ้าไสลือไท) กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย ให้ไปร่วมพระราชกุศล สร้างพระอารามหลวงในกรุงสุโขทัย เมื่อทรงสร้างพระอารามหลวงเสร็จแล้ว พระเจ้ากรุงสุโขทัย ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก ที่เจ้าผู้ครองนครน่านได้มาร่วมพระราชกุศลสร้างพระอารามหลวงจนเป็นผลสำเร็จ จึงได้โปรดพระราชทาน พระบรมสารีริกธาตุให้รวม 7 องค์ รูปพรรณสัณฐานเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด มีวรรณะต่างกัน และพระพิมพ์ทองคำ 20 องค์ พระพิมพ์เงิน 20 องค์ ให้แก่พญาการเมือง จึงได้อาราธนาพระบรมสารีริกธาตุกลับมายังนครน่าน (วรนคร) แล้วพระองค์ได้ปรึกษา พระมหาเถรธรรมบาล พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ว่า สมควรจะอาราธนาพระบรมสารีริกธาตุนี้ไปประจุไว้ ณ ที่ใดจึงจะสมควร พระมหาเถรธรรมบาล ได้พิจารณาแล้วให้คำแนะนำว่า ที่ดอยภูเพียงแช่แห้งเป็นชัยภูมิดีสมควรอาราธนาพระบรมสารีริกธาตุไปประจุไว้ ณ ที่นั้น พญาการเมืองเห็นชอบด้วย จึงได้อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยพระพิมพ์ทองคำ พระพิมพ์เงิน ไปยังดอยภูเพียงแช่แห้ง ประจุลงในเต้าปูน ทองสำริด แล้วพอกด้วยสะตาย (ปูนขาวผสมยางไม้) กลมเหมือนก้อนศิลา (ขนาดพอประมาณ ไม่ใหญ่โตมากนัก) แล้วขุดหลุมลึก 1 วา อาราธนาพระบรมสารีริกธาตุ ประจุไว้ในหลุมนั้น กลบดินแล้วก่อเจดีย์สูง 1 วา ทับไว้อีกชั้นเมื่อพญาการเมืองได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ ดอยภูเพียงแช่แห้งแล้ว กาลต่อมาจึงย้ายเมืองวรนคร จากท้องที่อำเภอปัว ในปัจจุบันมาสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เชิงดอยภูเพียงแช่แห้ง ทรงขนานนามตามชื่อดอยว่า เมืองภูเพียงแช่แห้ง สืบมาจวบจนถึงในปัจจุบัน
 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
บทความยอดนิยม
Tag